Insulation Work (งานหุ้มฉนวน)

             งานหุ้มฉนวน (Insulation Work) ในงานอุตสาหกรรม จะถูกแบ่งออกเป็นตามประเภทของงาน เช่น งานหุ้มฉนวนกันความร้อน งานหุ้มฉนวนกันความเย็น งานหุ้มฉนวนกันเสียงหรือเพื่อลดเสียง

                วัตถุประสงค์ของการหุ้มฉนวนในงานอุตสาหกรรม คือ เพื่อป้องกันเกิดการสูญเสียพลังงานสู่ภายนอกของ ท่อ ถังและอุปกรณ์  ทั้งยังช่วยประหยัดในการใช้พลังงานในการดำเนินงาน และยังสามารถรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน

ประเภทของงานหุ้มฉนวน

                1.งานหุ้มฉนวนกันความร้อน >>> การหุ้มฉนวนกันความร้อน เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนสู่บรรยากาศรอบๆของ ท่อ ถังและอุปกรณ์ เมื่อพื้นผิวของอุปกรณ์มีอุณหภูมิสูง การหุ้มฉนวนยังช่วยให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งานอีกด้วย

                   ฉนวนที่ใช้ในการหุ้มกันความร้อน จะมีหลากหลายชนิด เช่น ฉนวนใยแก้ว ฉนวนใยหิน ฉนวนแคลเซียม ฉนวนเซรามิคไฟเบอร์ ฯลฯ ซึ่งรูปแบบของฉนวนก็จะแตกต่างกันไป คือ แบบท่อครอบ แบบม้วน หรือแบบแผ่น เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะหน้างานที่จะใช้ในการติดตั้ง
  

                2.งานหุ้มฉนวนกันความเย็น >>> การหุ้มฉนวนกันความเย็น เพื่อลดการสูญเสียความเย็นซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานในการทำความเย็น และยังช่วยลดปัญหาเกิดการควบแน่นของไอน้ำเป็นหยดน้ำบริเวณผิววัสดุของอุปกรณ์ ทำให้เกิดการผุกร่อนได้

                   ฉนวนที่ใช้ในการหุ้มกันความเย็น คือ ฉนวนยางอีลาสโตเมอร์(ฉนวนยางดำ) ฉนวนโฟมพียู(Polyurethane Foam) ฉนวนโฟมกลาส ส่วนรูปแบบของฉนวนก็จะมีทั้ง แบบท่อ แบบแผ่น หรือใช้การฉีดพ่น ตามลักษณะของการใช้งาน

                3.งานหุ้มฉนวนกันเสียงหรือลดเสียง >>> การหุ้มฉนวนกันเสียง หลักๆใช้เพื่อป้องกันเสียงที่เกิดจากทำงานของอุปกรณ์หรือแหล่งกำเนิดเสียง เช่น โบลเวอร์ ห้องเครื่องผลิตไฟฟ้า ห้องซ้อมดนตรี ห้องประชุม ห้องเก็บเสียง ฯลฯ 

                   ฉนวนที่ใช้ในการหุ้มกันเสียงหรือลดเสียง คือ ฉนวนใยหิน ฉนวนควบคุมเสียง(Sound Proof) เป็นต้น

 การเลือกชนิดของฉนวนที่ใช้ในการหุ้ม

               เมื่อเรารู้แล้วว่าประเภทงานแบบนี้ควรจะใช้ฉนวนชนิคไหนบ้าง สิ่งสำคัญต่อมาในการพิจารณาควรต้องมีองค์ประกอบดังนี้ 

               1.รูปแบบของฉนวน >>> ลักษณะการนำฉนวนไปใช้ในงานหุ้มอะไร เช่น เราจะนำฉนวนไปหุ้มท่อก็เลือกใช้ฉนวนที่เป็นแบบท่อครอบ หรือเอาไปหุ้มถังก็จะใช้แบบม้วน เป็นต้น            

               2.ความหนาของฉนวน >>> การเลือกความหนาของฉนวนที่เหมาะสมต้องดูอุณหภูมิที่ใช้งานเป็นส่วนประกอบในการเลือก
               3.ชนิดของฉนวน >>> การเลือกชนิดของฉนวน ต้องรู้คุณสมบัติของตัววัสดุฉนวนนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ฉนวนใยแก้วใช้งานอยู่ที่อุณหภูมิไม่เกิน 400 องศาเซลเซียล ฉนวนใยหินใช้งานอยู่ที่อุณหภูมิไม่เกิน 600 องศาเซลเซียล เป็นต้น


   *** ในการหุ้มฉนวนต่างๆ สิ่งอื่นๆที่จะต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วย คือการป้องกันตัวฉนวนไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งการป้องกันที่นิยมทำกัน คือการนำแผ่นโลหะมาขึ้นรูปเพื่อหุ้มปิดทับฉนวน โดยแผ่นโลหะมีนำมาใช้ จะมีสังกะสี อลูมิเนียม และสแตนเลส ฯลฯ




Visitors: 27,244